ฟ้าทะลายโจร เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรดั้งเดิมในประเทศไทยที่ได้มีการนำมาใช้บรรเทาอาการหวัด เจ็บคอ รวมถึงอาการไข้อีกหลายประเภทที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อจากไวรัสและแบคทีเรีย จึงได้มีคำถามถึงความสามารถเกี่ยวกับการรักษาหรือป้องกัน COVID 19 ได้มากน้อยเพียงใดนอกจากนี้มีการทดลองในประเทศชิลีในการรักษาอาการจากหวัด พบว่าการทานสารสกัดจากใบฟ้าทะลายโจรขนาด 1,200 กรัมต่อวันเป็นเวลา 3-4 วัน สามารถลดอาการรุนแรงของโรคหวัดได้ และหากรับฟ้าทะลายโจรสูงถึง 6 กรัมต่อวัน สามารถลดอาการไข้ และอาการเจ็บคอได้ 80-90 %
เดือนกุมภาพันธ์ 2563 กรมแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการทดลองวิจัยสารสกัดฟ้าทะลายโจร โดยนำกลุ่มตัวอย่างคนไทยสุขภาพดี 10 คน รับประทานสารสกัดฟ้าทะลายโจรและอยู่ในโรงพยาบาล 5วัน จากนั้นเอาเซรุ่มที่สกัดจากกลุ่มตัวอย่างไปใส่เชื้อ COVID 19 พบว่าสารสกัดฟ้าทะลายโจรนี้ สามารถยับยั้งการการแพร่และการเจริญเติบโตของไวรัสในหลอดทดลองได้ และถือว่าเป็นการศึกษาครั้งแรกที่ทดลองใช้สารสกัดฟ้าทะลายโจรกับเชื้อไวรัส COVID 19
ผลวิจัยเพิ่มเติมในเดือนธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กับคณะแพทย์ศิริราชพยาบาล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ องค์การเภสัชกรรม พบว่าสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูงมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ เมื่อรับในปริมาณ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้ป่วยทุกคนจะมีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 ของการรับสารสกัด และไม่มีอาการข้างเคียง ค่าการทำงานของตับและไตยังเป็นปกติ แต่ไม่มีฤทธิ์ในการป้องกันเซลล์จากการติดเชื้อ จึงควรรับประทานเมื่อมีอาการ การวิจัยกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการเกี่ยวกับผู้ป่วยที่ยืนยันการติดเชื้อภายใน 72 ชั่วโมง โดยศึกษาในด้านด้านความปลอดภัย และขนาดที่เหมาะสม รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีต่าง ๆ ในเลือดที่เกี่ยวกับการป้องกันการอักเสบต่อไป โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร แนะนาการใช้ฟ้าทะลายโจร ดังนี้
- การกินเพื่อป้องกัน โดยสมุนไพรมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบ และต้านไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินอาหาร ควรใช้ขนาดต่ำ ทานวันละ 1 เม็ด 5 วันต่อสัปดาห์ นาน 3 เดือน จะช่วยลดอัตราการเป็นหวัดได้ 33 % โดยคาดว่าใน 1 แคปซูลจะมีสาร แอนโดรกราโฟไลด์ ประมาณ 12 มิลิกรัม
- การทานเพื่อรักษาอาการหวัด และไข้ ให้ทานครั้งละ 3 เม็ด วันละ 4 ครั้ง ใช้ไม่เกิน 7 วัน สามารถหยุดยาได้เลยทันทีเมื่ออาการดีขึ้น โดยไม่มีผลทำให้ดื้อยา
สารสกัดสมุนไพรฟ้าทะลายโจร มีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาหลากหลาย โดยสารสำคัญที่มีฤทธิ์รักษาโรคมีอยู่ 4 ชนิด ได้แก่ สารแอนโดรกาโฟไลด์, ดิออกซีไดดีไฮโดรแอนโดรกราโฟไลด์, นีโอแอนโดรกราโฟไลด์ และสารดิออกซิแอนโดรกราโฟไลด์ โดยเฉพาะสารตัวสุดท้ายนี้เป็นสารที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ แยกได้บริสุทธิ์จากฟ้าทะลายโจร ซึ่งเป็นสารสำคัญอีกชนิดหนึ่ง ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคได้ดี
สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของฟ้าทะลายโจร พบว่ายังมีฤทธิ์อีกหลายประการ เช่น
- ต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีฤทธิ์ในระดับปานกลาง มีค่า SC 50 หรือค่าที่กำจัดอนุมูลอิสระได้ 50 % เท่ากับ 75-80 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร นั่นคือสามารถชะลอความชรา ลดริ้วรอยแห่งวัย และช่วยป้องกันความผิดปกติของเซลล์ในร่างกาย(การก่อให้เกิดมะเร็ง) เป็นต้น
- ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้อ Staphylococcus aureus ซึ่งเป็นเชื้อที่มีความรุนแรง และค่า MIC หรือค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถยับยั้งเชื้อได้เท่ากับ 32 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร
- ยับยั้งเชื้อมาเลเรีย โดยเฉพาะ Plasmodium falciparum ในหลอดทดลอง โดยมีค่า IC 50 ค่าความเข้มข้นของสารสกัดที่สามารถยับยั้งเชื้อได้ 50 % เท่ากับ 418.25 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้
- ต่อต้านการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ที่ถูกกระตุ้นด้วย Thrombin ในหลอดทดลอง ซึ่งยับยั้งได้ดี
- ช่วยลดความดันโลหิต โดยจะขยายหลอดเลือด และลดอัตราการเต้นของหัวใจ สารสกัดฟ้าทะลายโจรที่มีสาร AP3 สูง จะมีฤทธิ์ในการลดความดันโลหิตได้ดี
- ฆ่าเชื้อมะเร็งในหลอดทดลอง โดยเฉพาะเซลล์มะเร็งสมอง SK-N-SH ของสารบริสุทธิ์ที่แยกได้จากฟ้าทะลายโจร ได้แก่ AP1, AP3 และ AP4 ในหลอดทดลอง
แต่อย่างไรก็ตาม ฟ้าทะลายโจรเหมาะกับอาการไม่สบายแบบตัวร้อน เจ็บคอ ร้อนใน กระหายน้ำ ท้องผูก ปัสสาวะสีเข้ม ไม่เหมาะกับไข้แบบเย็นที่มีอาการอุ้งมือและเท้าเย็น ปัสสาวะปริมาณมาก มีอาการหนาวสั่นกว่าปกติ เพราะฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์เย็น หากอาการไม่ดีขึ้นใน 3 วัน ควรไปพบแพทย์ รวมถึงไม่ควรทานฟ้าทะลายโจรเกิน 7 วัน เพราะจะมีอาการข้างเคียง คือ ท้องอืด อาหารไม่ย่อย แขนขาไม่มีแรง ที่สำคัญไม่ควรให้ฟ้าทะลายโจรในสตรีมีครรภ์ สตรีที่ให้นมบุตร เพราะอาจส่งผลเสียต่อเด็กได้ รวมถึงไม่เหมาะกับคนที่มีความดันต่ำ ส่วนอาการแพ้ของฟ้าทะลายโจร อาจจะมีผื่นขึ้นปากบวม หน้าบวม ตัวบวม ถ้ารุนแรงอาจจะเกิดอาการช็อกได้เช่นกัน
ข้อสังเกตของแพทย์แผนไทย คือ การใช้ฟ้าทะลายโจร ควรใช้อย่างองค์รวมจะได้ผลดีกว่าการใช้ยาสกัดสารสำคัญ และขนาดผงยา 1 ช้อนชาเทียบกับ 6 แคปซูล หรือ 12 เม็ดลูกกลอน และฟ้าทะลายโจรที่ปลูกในบ้านเรา มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ มากถึง 1.7 % ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานโลกที่กำหนดว่าต้องมีอย่างน้อย 1.5 % ซึ่งจะใช้ทำยาได้
ข้อมูลจาก : นพ.ธิติวัฒน์ ประชาธำรงพิวัฒน์
(https://minsenconcept.com/ฟ้าทะลายโจร-กับ-covid/)
Cover designed by Freepik